Free

วั๊นซ์ กอน

Text
Mark as finished
Font:Smaller АаLarger Aa

บทที่ 35

ไรล์ลี่เงี่ยหูฟังเสียง ทั้งร่างกายเจ็บปวดไปหมด โดยเฉพาะตรงหัวไหล่กับศีรษะ หน้าของบิลเข้ามาอยู่ในทัศนวิสัย นี่เธอฝันไปหรือเปล่า?

“บิล?” เธอถาม

เขายิ้มอย่างโล่งอก ในมือเขามีอะไรนุ่มๆกดอยู่ที่ศีรษะของเธอ กำลังห้ามเลือดที่ไหล

“ยินดีต้อนรับกลับ” เขาบอก

ไรล์ลี่เห็นว่าเธอยังอยู่ในห้อง กับเสาแท่งเหล็กแป็บใกล้ๆ ความตื่นตระหนกกลับเข้ามา

“เดิร์กอยู่ไหน” เธอถามขึ้น

“ตายแล้ว” บิลตอบ “คุณก็ให้มันได้รับกรรมอย่างสาสมไปแล้วนี่”

ไรล์ลี่ยังงงๆเหมือนอยู่ในฝัน

“ฉันต้องเห็น” เธอหายใจขัด แต่ก็หันหน้าไปมองได้ เธอเห็นเดิร์กนอนเหยียดอยู่กลางพื้นห้อง หน้าคว่ำจมกองเลือด ตาเบิกโพลงไม่มีกระพริบตา

บิลจับหน้าไรล์ลี่หันกลับไปทางเขา

“อย่าพยายามขยับเขยื้อน” เขาบอก “คุณเจ็บหนักเหมือนกัน คุณจะไม่เป็นอะไรหรอก แต่ว่าเสียเลือดมากไปหน่อย”

อาการวิงเวียนมึนๆของเธอมันบอกว่าบิลนั้นพูดถูก เธอพูดออกมาห้าพยางค์ก่อนจะสิ้นสติสัมปชัญญะไปอีกครั้ง

“จัดการทีละคน”

บทที่ 36

เจ้าหน้าที่พิเศษ เบรนท์ เมอเรดิธ ปิดซองเอกสารหนาที่ด้านในเต็มไปด้วยภาพถ่ายและรายงาน พร้อมโน๊ตแสดงให้เห็นว่าคดีจบลงอย่างเป็นที่น่าพอใจ ไรล์ลี่เองก็รู้สึกพอใจ และเธอมั่นใจว่าบิลกลับฟลอเรสก็พอใจไม่แพ้กัน พวกเขานั่งรวมกันอยู่ที่โต๊ะในห้องประชุมของศูนย์วิเคราะห์พฤติกรรม หากไรล์ลี่ไม่ได้โดนพันแผลไว้ทั่วและเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้ ช่วงเวลาแบบนี้คงจะเพอร์เฟ็คมาก

“สรุป แม่ของเดิร์กอยากได้ลูกสาวมากกว่าลูกชาย” เมอเรดิธอธิบาย “เธอพยายามจะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นหญิงงามแห่งแดนใต้” นั่นก็น่าจะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของปัญหา คงไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาโตมายังไงและต้องเจออะไรมาบ้าง”

บิลเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

“อย่าไปสงสารเขาให้มากเลย” เขาขัดจังหวะ “ไม่ใช่ทุกคนที่มีวัยเด็กแย่ๆจะโตขึ้นมาเป็นฆาตกรที่ชอบใช้ความรุนแรง เขาเป็นคนเลือกทุกอย่างด้วยตัวเอง”

ทั้งเมอเรดิธและฟลอเรสพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“แล้วมีใครรู้บ้างมั้ยว่าแม่ของเดิร์กเป็นยังไงบ้าง” ไรล์ลี่ถามขึ้น

“จากบันทึกบอกว่าเธอเสียชีวิตไปแล้วเมื่อห้าปีก่อน” ฟลอเรสตอบ “พ่อของเขาหายสาบสูญไปนานก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ตอนที่เดิร์กยังเป็นทารก”

ทั้งกลุ่มเงียบอย่างสลดใจ ไรล์ลี่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร เธอเคยได้พบกับคนสามคนที่ทุ่มเทชีวิตไปกับการกำจัดสิ่งชั่วร้าย แม้จะกำลังมีความสุข แต่ความแข็งแกร่งของสิ่งชั่วร้ายที่เพิ่มขึ้นกับภารกิจที่มีมากขึ้น มันทำให้พวกเขาคิดวิตกกังวลตลอด มันไม่มีวันจบสิ้น สำหรับพวกเขา

ประตูเปิดออกและ คาร์ล วาล์วเดอร์ เดินเข้ามา ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“เยี่ยมมากทุกคน” เขาเอ่ยคำชม พร้อมเลื่อนปืนกับตราประจำตัวของไรล์ลี่ข้ามไปให้เธอตรงหน้า

“ของพวกนี้มันเป็นของคุณ”

ไรล์ลี่ยิ้มฝืนๆ วาล์วเดอร์ก็ยังไม่ยอมขอโทษ ยิ่งไม่ต้องไปหวังให้เขายอมรับความผิดของตัวเองเลย แต่มันก็ไม่ต่างกันเธอคงทำตัวไม่ถูกหากเขาเอ่ยคำขอโทษขึ้นมาจริงๆ คงจะไม่ได้ขอโทษแบบเต็มใจ

“มีอีกเรื่องนึง ไรล์ลี่” วาล์วเดอร์พูดต่อ “ท่านวุฒิสมาชิกโทรมาหาผมเมื่อเช้า และฝากความห่วงใยกับคำขอบคุณมาให้คุณด้วย ดูท่านจะยกย่องคุณมากเลยนะ”

ตอนนี้ไรล์ลี่ถึงกับต้องกลั้นความขบขันเอาไว้ โทรศัพท์เมื่อครู่นี้ เธอแน่ใจว่ามันคือเหตุผลว่าทำไมวาล์วเดอร์ถึงคืนปืนกับตราประจำตัวให้เธอ เธอนึกย้อนไปถึงหนึ่งในสิ่งสุดท้ายที่นิวโบรพูดกับเธอ

“คุณไม่ใช่สมุนของใคร”

ประโยคนี้คงเอามาพูดกับ คาร์ล วาล์วเดอร์ ไม่ได้

“ว่างๆก็มาที่ออฟฟิศผม” วาล์วเดอร์บอก “ไว้คุยเรื่องเลื่อนขั้นกัน ตำแหน่งจัดการเอกสารดีมั้ย คุณสมควรได้รับมัน”

แล้ววาล์วเดอร์ก็ออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรต่อ ไรล์ลี่ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมงานของเธอถอนหายใจเสียงดังด้วยความโล่งใจว่าเขาไปเสียที

“คุณน่าจะลองเก็บไปคิดดูนะไรล์ลี่” เมอเรดิธเห็นด้วย

ไรล์ลี่หัวเราะเล็กๆ

“ท่านนึกภาพฉันทำงานเอกสารออกจริงๆเหรอคะ”

เมอเรดิธยักไหล่

“คุณไม่มีอะไรต้องรู้สึกติดค้างอีกแล้ว คุณทำงานคดีเสี่ยงๆมามากกว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นเคยทำมาทั้งชีวิตอีก บางทีคุณน่าจะลองไปเป็นครูฝึก คุณน่าจะไปได้สวยเลยในการเทรนเจ้าหน้าที่ ด้วยประสบการณ์และความรู้ของคุณ คุณว่ายังไง”

ไรล์ลี่ลองคิดทบทวนดู ตัวเธอมีดีอะไรจะสอนเจ้าหน้าที่ใหม่กันหรือ? สัญชาตญาณคือสิ่งเดียวที่เธอมี และเท่าที่เธอรู้ สัญชาตญาณมันสอนกันไม่ได้ ไม่มีทางที่เราจะสอนให้คนทำตามเซ้นท์ของตัวเองได้หรอก ถ้าเขามีก็คือมี ถ้าไม่มีก็คือไม่มี

แล้วยิ่งกว่านั้น เธออยากจะให้ใครมีสัญชาตญาณที่เหมือนกับเธอจริงๆหรือ เธออยู่อย่างหวาดกลัวกับความคิดตัวเองมากเกินไป โดนหลอกหลอนไปด้วยความสามารถในการเข้าใจความคิดชั่วร้าย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งเหล่านี้

“ขอบคุณค่ะ” ไรล์ลี่ตอบ “แต่อยู่ที่นี่ ฉันก็มีความสุขดีอยู่แล้ว”

เมอเรดิธพยักหน้าและลุกขึ้นจากเก้าอี้ “โอเค งั้นวันนี้ก็พอแค่นี้ กลับบ้านไปพักผ่อนกันนะ”

ที่ประชุมสลายตัว เหลือเพียงไรล์ลี่กับบิลเดินลงไปตามทางเดินด้วยกันอย่างเงียบๆ พวกเขาเดินออกจากอาคารและนั่งลงข้างกันบนม้านั่งด้านนอก หนึ่งนาทีผ่านไป ไม่มีใครรู้ว่าจะเริ่มพูดอะไร มีมากมายหลายอย่างเหลือเกินที่ต้องพูด

“บิล” เธอถามอย่างไม่มั่นใจ “คุณคิดว่าเรายังเป็นคู่หูกันได้อยู่อีกรึเปล่า”

หลังเงียบไปครู่ใหญ่ บิลตอบ “คุณคิดว่ายังไง”

พวกเขาหันมามองเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ไรล์ลี่ยังเห็นความเจ็บปวดในสีหน้าของเขา บาดแผลจากโทรศัพท์น้ำเมาสายนั้นที่เธอสร้างไว้มันคงยังไม่หายสนิท มันคงต้องใช้เวลาอีกนาน

แต่ตอนนี้เธอกลับรู้เรื่องอื่น – บางอย่างที่เป็นความจริงมาแสนนาน แต่เธอไม่เคยยอมให้ตัวเองยอมรับมาก่อน สายสัมพันธ์ระหว่างบิลกับเธอมันแข็งแรงและมีพลัง และเขาก็เกือบจะรู้สึกแบบเดียวกัน มันไม่ใช่ความลับที่พวกเขาจะปิดบังกันและกันได้อีกต่อไป มันไม่มีทางที่พวกเขาจะกลับไปเป็นแบบเดิมได้อีก

ความเป็นคู่หูกันมันจบแล้ว ทั้งเธอและเขารู้ดี ไม่จำเป็นต้องมีใครพูดมันออกมา

“กลับบ้านซะ บิล” ไรล์ลี่พูดอย่างอ่อนโยน “พยายามปรับความเข้าใจกับภรรยาคุณซะ คุณมีลูกที่ต้องคิดถึงให้มาก”

“ผมต้องทำแน่” บิลบอก “แต่ผมก็หวังว่าผมจะไม่เสียคุณไป – ความเป็นเพื่อนของคุณ ที่ผมหมายถึง”

ไรล์ลี่แตะมือเขาและยิ้มออกมา

“ไม่มีวันซะหรอก” เธอตอบ

พวกเขาทั้งคู่ลุกขึ้นจากม้านั่ง และต่างคนต่างเดินไปที่รถของตัวเอง

*

“แม่คิดอะไรอยู่เหรอคะ” เอพริลถาม

ทั้งไรล์ลี่และเอพริลต่างก็นั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่นนี้มาจนถึงดึก เมื่อตอนเย็นเธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้เอพริลฟังแล้ว – หรืออย่างน้อยก็ทั้งหมดที่เธอรู้สึกว่าบอกได้

ไรล์ลี่ลังเลไปก่อนจะตอบคำถามของเอพริล แต่เธอรู้ว่าเธอต้องพูดมันออกมา

ยิ่งกว่านั้น เอพริลก็รู้ทุกอย่างหมดแล้ว มันไม่ใช่ความลับอะไร มันก็แค่บางอย่างที่เธอสลัดออกไปจากหัวสมองไม่ได้

“วันนี้แม่ฆ่าคนตาย” ไรล์ลี่บอก

เอพริลบอกเธอด้วยความรักและเป็นห่วง

“หนูรู้” เธอตอบ “แล้วมันรู้สึกยังไง”

“มันยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด” ไรล์ลี่อธิบาย “มันแย่ มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครมีสิทธิ์จะกระทำ – ไม่เลย จริงๆ แต่บางครั้งมันก็เป็นหนทางเดียว”

ไรล์ลี่หยุดพูดไป “แม่รู้สึกอย่างอื่นด้วย” เธอบอก “แม่ไม่แน่ใจว่าควรบอกรึเปล่า”

เอพริลหัวเราะเงียบๆ “หนูนึกว่าเราจะไม่มีอะไรปิดบังกันแล้วซะอีกนะคะ”

ไรล์ลี่เตรียมใจตัวเองและพูดว่า “แม่รู้สึกเหมือนมีชีวิต พระเจ้านำทางให้แม่ ทำให้แม่รู้สึกเหมือนเกิดใหม่ และไม่ว่าจะวันไหนต่อจากนี้ แม่รู้ว่าจะต้องมีผู้หญิงคนอื่นที่เดินเข้าไปในร้านของแมเดอลีนและซื้อตุ๊กตาและไม่มีวันได้รับอันตรายอีก แม่ก็แค่…อืม แม่ก็แค่…ดีใจไปกับพวกเธอด้วยน่ะ แม่ดีใจที่ปกป้องพวกเธอไว้ได้ แม้ว่าพวกเธอจะไม่มีวันรู้เลย”

เธอบีบมือของเอพริลไว้แน่น

“ดึกแล้ว และพรุ่งนี้ลูกมีเรียนนะ” เธอไล่ไปนอนอ้อมๆ

เอพริลจุ๊บที่แก้มของแม่

“กู้ดไนท์ค่ะแม่” เธอกล่าวราตรีสวัสดิ์ แล้วจึงเข้าห้องนอน

“ไรล์ลี่เริ่มรู้สึกเจ็บแผลขึ้นมาอีกแล้วก็เหนื่อยเพลียด้วย เธอสำนึกว่าเธอคงต้องไปนอนเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะผล็อยหลับไปบนโซฟานี้แหละ

เธอดันตัวเองลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ห้องนอน ตัวอยู่ในชุดนอนเรียบร้อยและไม่ได้สนใจจะเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน เธอเพียงอยากจะเดินตรงไปที่เตียงและล้มตัวลงนอนเลย

เมื่อเข้ามาภายในห้องนอนและเปิดไฟเรียบร้อยแล้ว บางอย่างสะดุดตาเธอทันที หัวใจแทบหยุดเต้น

ตรงนั้น บนเตียงนอน มีบางอย่างผิดปกติ

มีลูกหินหนึ่งกำมือวางอยู่บนนั้น

วางจำหน่ายแล้ว วันนี้ !



วั๊นซ์ เทเค็น

คดีลึกปริศนาลับของ ไรล์ลี่ เพจ – เล่ม #2


หญิงสาวหลายรายถูกฆาตกรรมในตอนบนของมหานครนิวยอร์ค ศพของพวกเธอถูกพบห้อยไว้กับโซ่อย่างลึกลับ เมื่อเอฟบีไอได้รับมอบหมายให้จัดการคดีนี้ ความแปลกประหลาดของการสังหาร – และการไร้ซึ่งร่องรอยใดๆ – จึงทำให้มีเพียงคนเดียวที่พวกเขาสามารถหันหน้าไปพึ่งได้ : เจ้าหน้าที่พิเศษ ไรล์ลี่ เพจ


ไรล์ลี่นั้นยังคงขวัญเสียจากการทำคดีล่าสุด ยังลังเลที่จะตอบรับคดีใหม่เพราะเชื่อว่าฆาตกรต่อเนื่องรายก่อนยังมีชีวิตอยู่และเฝ้าจับตาดูเธอทุกฝีก้าว แต่เธอรู้ดีว่าความสามารถในการเข้าไปอยู่ในห้วงความคิดของฆาตกรและนิสัยหมกมุ่นของเธอนั้นคือสิ่งจำเป็นสำคัญที่จะไขปริศนาคดีนี้ และนั่นทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้ – แม้ว่ามันอาจทำให้เธอสติแตก

การค้นหาความจริงนำพาเธอลึกลงสู่ห้วงความคิดสุดหลอนของฆาตกร ไปสู่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า ไปยังโรงพยาบาลโรคประสาท ไปยังคุก ทั้งหมดเพื่อให้เข้าใจความบิดเบี้ยวทางจิตของอาชญากร ตระหนักทันทีว่าเธอนั้นกำลังเผชิญหน้าอยู่กับฆาตกรโรคจิตขนานแท้ ไรล์ลี่รู้ว่าเวลานั้นเหลือน้อยเต็มทีก่อนมันจะลงมืออีกครั้ง ทั้งหน้าที่การงานที่เป็นเดิมพัน ครอบครัวที่ต้องตกเป็นเป้า และจิตใต้สำนึกอันเปราะบางของเธอที่กำลังจะพังทลาย มันอาจจะมากเกินไปสำหรับไรล์ลี่ – และสายเกินไป


นวนิยายสืบสวนสอบสวนทางจิตวิทยาที่มีความตื่นเต้นระทึกขวัญ เรื่อง วั๊นซ์ เทเค็น เป็นเล่มที่ #2 ของนวนิยายใหม่สุดประทับใจ—กับคาแร็คเตอร์ที่คุณต้องหลงรัก—ที่จะทำให้คุณลุ้นจนวางไม่ลง

เล่มที่ #3 ของ นวนิยายไตรภาค คดีลึกปริศนาลับของ ไรล์ลี่ เพจ เตรียมวางจำหน่ายแล้ว เร็วๆนี้



วั๊นซ์ เทเค็น

คดีลึกปริศนาลับของ ไรล์ลี่ เพจ – เล่ม #2

เบลค เพียร์ซ


เบลค เพียร์ส เป็นนักประพันธ์นวนิยายขายดีอันดับหนึ่ง นวนิยายไตรภาคเรื่อง คดีลึกปริศนาลับของ ไรล์ลี่ เพจ

บทประพันธ์ไตรภาคนี้รวมความลึกลับระทึกขวัญของ วั๊นซ์ กอน (เล่ม #1), วั๊นซ์ เทเค็น (เล่ม #2) และ วั๊นซ์ เครฟด์ (เล่ม#3).

 

หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงหรือเป็นแฟนนิยายลึกลึบระทึกขวัญแล้ว สามารถเสนอแนะนำข้อติชม และ คอมเม้นท์เกี่ยวกับหนังสือได้ที่ www.blakepierceauthor.com

บทประพันธ์โดย เบลค เพียร์ซ


คดีลึกปริศนาลับของ ไรล์ลี่ เพจ

วั๊นซ์ กอน (เล่ม #1)

วั๊นซ์ เทเค็น (เล่ม #2)

วั๊นซ์ เครฟด์ (เล่ม #3)